เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับตามด้วยการแสดงดนตรีเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ
198 ปีการประกาศเอกราชเปรู มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 260 คน เป็นสมาชิกของคณะทูตประจำประเทศไทย ผู้แทนรัฐบาลไทย นักธุรกิจ นักวิชาการ
สื่อมวลชน และชุมชนชาวเปรูที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งแขกในงานมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารเปรู
เครื่องดื่มประจำชาติ “ปิสโก
ซาว” พร้อมเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีพื้นเมืองและการเต้นรำจากประเทศเปรู
หลังจากงานเลี้ยงรับรองซึ่งจัดขึ้น ณ โถงของสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ
แขกทั้งหลายได้ทะยอยเข้าหอประชุมเพื่อชมคอนเสิร์ตและการเต้นรำจากศิลปินวง “อาปู
อินคา” (Apu Inka)
กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินสายประชาสัมพันธิ์วัฒนธรรมเปรูผ่านดนตรี
จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศเปรู สถานทูต และสถานกงสุลในทวีปเอเชีย เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมเปรูให้เป็นที่รู้จัก
การนำเสนอของ "Apu Inka" ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เพลิดเพลินไปกับบทเพลงเปรูที่หลากหลาย
ผ่านทางบทเพลงพื้นบ้าน นักเต้นสองคนเสริมการแสดงที่ดึงดูดใจผู้ชมด้วยการเต้นรำที่สวยงามและมีสีสันจากวัฒนธรรมพื้นที่แถบชายฝั่งภูเขาและป่าดิบชื้น
ในขณะเดียวกันก็มีการฉายไลด์ภาพทิวทัศน์เพื่อช่วยสื่อความหมายของแต่ละบทเพลง
นักดนตรีชาวเปรูร่วมบรรเลงเพลงไทยสองเพลงและเพลงเปรูหนึ่งเพลง
ร่วมกับนักเรียนดนตรีจากมหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยเครื่องดนตรีไทย ทำให้เกิดความสามัคคีอย่างสมบูรณ์แบบและเป็นสัญลักษณ์ของการเผชิญหน้าระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ
ในการส่งเสริมการเชื่อมต่อแบบ "People to People"
ผู้เข้าร่วมชมงานชื่นชมวัฒนธรรมทางดนตรี เช่นเดียวกับการลองลิ้มชิมรส
อาหารเปรู อาทิ ceviche de pescado, ceviche de mango, causa, ají de
gallina, ensalada de quinua, choritos a la chalaca, empanadas y papas a la
huancaína ฝีมือพ่อครัวชาวเปรู โอมาร์ แฟรงค์ ได้รับการสนับสนุนร้านอาหาร
“Above Eleven” โดยใช้อะโวคาโดเปรู พันธุ์แฮส (Hass) ล็อตแรกที่นำเข้าไทย
ศิลปิน “Apu Inka” จะทำการแสดงอีกสองครั้งในกรุงเทพฯ
ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอินเดียซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการทัวร์ครั้งนี้
กรุงเทพฯ, 7 สิงหาคม 2562
เมื่อวันที่
31 กรกฎาคม 2562 นาย Jaime Antonio Pomareda Montenegro รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรูลงนามภาคยานุวัติสารเข้าเป็นอัครภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty
of Amity and Cooperation in Southeast Asia : TAC) ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ครั้งที่ 52 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเทพฯ
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนประจำปี 2562
และรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ของสมาคมอาเซียน ได้แก่ บรูไน กัมพูชา
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ได้มีมติเอกฉันท์อนุมัติให้ภาคยานุวัติสารประเทศเปรูเข้าเป็นอัครภาคี
TAC ในขณะที่รัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ผู้แทนของประเทศคู่เจรจาอาเซียน
ประเทศที่ได้รับเชิญ และเลขาธิการอาเชียน ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้
หลังจากลงนามในภาคยานุวัติสาร
ซึ่งทำให้เราเป็นภาคีที่ 38 ในการทำสนธิสัญญา รองนายกรัฐมนตรีเปรูส่งข้อความเน้นย้ำว่าหนึ่งในวัตถุประสงค์ของนโยบายต่างประเทศของเปรูคือการกระชับความสัมพันธ์กับเอเชียในบริบทของการเข้าถึงเอเปคและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการลงนามในสนธิสัญญานี้
การยึดมั่นใน
TAC ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกอาเซียนและหุ้นส่วนภายนอก
เป็นก้าวสำคัญของเปรู เนื่องจากเป็นส่วนช่วยอำนวยความสะดวกทางความร่วมมือกับอาเซียนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า
การลงทุนและความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติ
การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ
กรุงเทพฯ, 31 กรกฎาคม 2019
เมื่อวันอาทิตย์ที่
28
กรกฎาคม
2562 สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยและชาวเปรูที่พำนักอยู่ในกรุงเทพมหานคร
ได้ร่วมกันเฉลิมฉลองในโอกาส 198 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพแห่งชาติด้วยการร่วมรับประทานอาหารกลางวันอันเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพในร้านอาหารเปรูแห่งใหม่
“Machu
Picchu & Pisco” ซึ่งมีชาวเปรูเข้าร่วมกว่า 40 คน รวมถึงกงสุลกิตติมศักดิ์เปรูประจำจังหวัดขอนแก่น
ท่ามกลางบรรยากาศของสีแดง-ขาว เหล่าผู้ร่วมงานต่างเพลิดเพลินไปกับอาหารอันเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติและค็อกเทลจาก Pisco
ทั้งนี้เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยได้กล่าวอวยพรแก่ผู้ร่วมงานทั้งหมดว่า
“Happy
28”
เพื่อเป็นการเน้นย้ำความประจวบเหมาะของวันชาติเปรูและวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้เอกอัครราชทูตยังได้กล่าวยินดีแก่ชาวเปรู และท้ายที่สุดท่านยังได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเปรูและไทยในด้านการเมือง
เศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรม
หลังจากนั้น หัวหน้าแผนกกงสุลได้กล่าวเฉลิมฉลองให้กับแขกภายในงานซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงการติดต่อสื่อสารระหว่างแผนกกงสุลกับสังคมชาวเปรูที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยผ่านทาง Social Network และได้ย้ำถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างถาวรของเจ้าหน้าที่กงสุลที่เชิญชวนให้ชาวเปรูมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศเปรูในไทยมากขึ้น ทั้งนี้ยังได้กล่าวถึงมาตรการด้านกงสุลซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงการต่างประเทศเปรูที่มุ่งให้บริการและให้ความช่วยเหลือแก่สังคมเปรูที่พำนักอยู่ในต่างแดนผ่านภารกิจด้านกงสุล ปิดท้ายด้วยการอ่านข้อความของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเปรู
ในช่วงเช้าเวลา 7.30 – 12.30 น.
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย Radio Thailand ได้ออกอากาศเพลงชาติเปรูและบันทึกบทสัมภาษณ์ของเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยซึ่งได้เน้นถึงระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศและทักทายสังคมชาวเปรูในวันครบรอบปีที่
198 ของการประกาศเอกราชแห่งชาติ พร้อมทั้งกล่าวกับชาวไทย โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
งานเฉลิมฉลองวันชาติของเปรูในประเทศไทยจะจัดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม โดยมีงานเลี้ยงต้อนรับและการแสดงดนตรีสดเปรู ทั้งนี้ได้เชิญตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ นักการทูต นักธุรกิจ ตัวแทนจากภาคอุดมศึกษา และผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับเปรูเข้าร่วมงานดังกล่าว
กรุงเทพฯ, 25 กรกฎาคม 2562
รัฐบาลเปรูผ่านกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยว (Mincetur) นำเสนอยุทธศาสตร์ระดับชาติ “ท่องเที่ยวปลอดภัย (Turismo Seguro)” ซึ่งเป็นความพยายามรับประกันประสบการณ์ที่ดีระหว่างการท่องเที่ยวและการเข้าพักอย่างปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเปรู
"กลยุทธ์ ‘ท่องเที่ยวปลอดภัย’ พยายามต่อสู้กับธุรกิจการท่องเที่ยวนอกระบบและความไม่มั่นคงในภาคการท่องเที่ยว ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ในระดับหลายภาคโดยผ่านงานที่ชัดเจนระหว่างทุกภาคส่วนของรัฐบาล ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดี Martín Vizcarra" Edgar Vásquez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยวกล่าว
รัฐมนตรีได้อธิบายไว้ว่า "การท่องเที่ยวที่ปลอดภัย" มีสามองค์ประกอบ ได้แก่ ความปลอดภัย ความมีระเบียบแบบแผน และการเสริมสร้างความเข้มแข็ง สิ่งเหล่านี้จะถูกนำไปใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 25 ภูมิภาคของประเทศและจะถูกนำไปรวมกับยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับวาระ 200 ปีชาติเปรู
รัฐมนตรี Vásquez ยังกล่าวอีกว่า กลยุทธ์นี้ยังรวมถึงการแทรกแซงที่ชัดเจนในแง่ของการรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ การปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันในการให้บริการการท่องเที่ยว และการเสริมสร้างการจัดการของรัฐบาลในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น นอกจากนี้เขายังเสริมว่านักท่องเที่ยวจะได้รับการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้บริการการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบการณ์การเดินทางเป็นที่น่าพอใจ
“เราต้องการให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยในเปรูและให้พวกเขาได้มุ่งเน้นประสบการณ์การเดินทางไปยังสิ่งมหัศจรรย์ที่พบในประเทศของเรา สิ่งนี้จะส่งผลดีอย่างมากต่อการแข่งขันของเปรูในฐานะจุดหมายของนักท่องเที่ยว มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่เราจะต้องดำเนินการในทิศทางที่ชัดเจนทั้งภาครัฐและเอกชน”
การริเริ่มแผนนี้เป็นความพยายามที่จะลดอัตราของบริษัทนอกระบบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำ
ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการให้บริการที่มีคุณภาพและเพื่อปรับปรุงการควบคุมการป้องกัน การดำเนินงาน
และการตอบสนองต่อปัญหาความปลอดภัยในภาคการท่องเที่ยว
การแทรกแซงองค์ประกอบ
สำหรับด้านความปลอดภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยวกล่าวว่า จะมีการยกระดับความสามารถในการปฏิบัติการของตำรวจท่องเที่ยว ผู้อำนวยการทั่วไปของกัปตันและหน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง (DICAPI) การบริการพื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติแห่งชาติโดยรัฐ (SERNANP) และรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะมีการเบิกจ่ายเงินจำนวนมากกว่า 20 ล้านโซลเพื่อซื้อรถบรรทุก จักรยานยนต์ รถเอทีวี อุปกรณ์สื่อสาร เรือ ฯลฯ
“การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเหลือตำรวจท่องเที่ยวด้วยการจัดซื้อรถบรรทุกประมาณ 75 คัน รถจักรยานยนต์ 55 คัน รถเอทีวี 10 คันและอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน DICAPI จะได้รับการช่วยเหลือด้วยเรือ 8 ลำและจุดตรวจในเมือง Loreto ในขณะที่ในเมือง Madre de Dios จะได้รับเรือ 2 ลำและอุปกรณ์สำหรับควบคุมและเฝ้าระวัง” เขากล่าวเพื่อให้ตัวอย่าง
เขายังให้ความเห็นผ่านมาตรการ “ท่องเที่ยวปลอดภัย” ว่า จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารการรักษาความปลอดภัยการท่องเที่ยวระดับสูง ในขณะที่เครือข่ายการป้องกันการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคจะได้รับการกระตุ้นและเสริมสร้างความเข้มแข็ง
ในระยะกลาง รัฐมนตรี Vásquez กล่าวว่า กรอบการกำกับดูแลภาคส่วนจะได้รับการปรับปรุง ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวจะได้รับการฝึกอบรม และรัฐบาลระดับภูมิภาคและท้องถิ่นจะได้รับการสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการกำกับดูแล
“รัฐบาลระดับภูมิภาคจะได้รับการสนับสนุนการดำเนินการตามแนวทางการจัดการที่ดี
อันหมายถึงการพัฒนาการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในแต่ละภูมิภาค อีกทั้งกระบวนการร้องเรียนจะได้รับการอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บและจะมีดำเนินการตามกลไกทางกฎหมายเพื่อการลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่น”
เขาอธิบาย
ความสำคัญ
กลยุทธ์ “ท่องเที่ยวปลอดภัย”
เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันที่ชัดเจนระหว่างกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยว
กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงานและการส่งเสริมการจ้างงาน กระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข
และกระทรวงสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีการมีสมาคมภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งรวมถึงสถานประกอบการ
ที่พัก ร้านอาหาร มัคคุเทศก์และบริษัทตัวแทนการท่องเที่ยว
การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้เผยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างถูกต้องเปิดเผยว่ามีธุรกิจที่อยู่นอกระบบการควบคุมมาตรฐาน
55% ใน Cusco ในขณะที่ใน Arequipa มี 75%
ในวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม และวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2562 สถานทูตกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาประจำประเทศไทย (อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลัมเบีย คิวบา เม็กซิโก ปานามา และเปรู) จัดงาน "Latin American Night" ณ “มหิดลสิทธาคาร” มหาวิทยาลัยมหิดล
ในโอกาสนี้นักเปียโนชาวอาร์เจนตินา Alexander Panizza ร่วมแสดงกับวงออร์เคสตรา Thailand Philharmonic Orchestra ภายใต้การกำกับของ Ligia Amadio วาทยากรชาวบราซิล ซึ่งทั้งสองท่านได้รับเชิญในฐานะแขกผู้มีเกียรติ
"Latin American Night" เป็นกิจกรรมทางดนตรีที่จัดขึ้นเป็นเวลาหลายปีโดยได้รับการสนับสนุนจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้บริเวณห้องโถงภายในงาน สถานทูตทุกแห่งมีพื้นที่สำหรับการส่งเสริมประเทศของแต่ละประเทศ หลังคอนเสิร์ตสถานทูตกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ โดยสถานทูตเปรูนำเสนอ "Pisco Sour" เครื่องดื่มประจำชาติ เพื่อความเพลิดเพลินของแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่เข้าร่วมงาน
กรุงเทพฯ, 6 กรกฎาคม
2562
สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย
ชั้น 16 อาคารกลาสเฮาส์
สุขุมวิท 25, วัฒนา ,
กทม.,10110
ประเทศไทย